Command
การกำหนดค่าเกี่ยวกับคำสั่งใช้งานภายในทรัพยากรนี้
httpHandler
การกำหนดค่าการจัดการ HTTP Request เพื่ออนุญาตให้เรียกใช้คำสั่งได้จากภายนอก
httpHandler = {
enable = false,
authorization = 'Bearer <your_bearer_token>',
allowedIPs = {
-- '127.0.0.1'
}
}
- enable:
boolean
- เปิดใช้งาน HTTP Handler เพื่ออนุญาตให้เรียกใช้คำสั่งจากภายนอก
- authorization:
string
- การกำหนดค่าการตรวจสอบสิทธิ์ของ HTTP Request
- allowedIPs:
table<{ [index]: string }>
|table<{}>
- การกำหนด Public IP ที่อนุญาตให้เข้าถึง
- ⚠️ หากไม่มีการกำหนด IP ระบบจะอ้างอิงสิทธิ์การเข้าถึงจาก
authorization
เท่านั้น
- ⚠️ หากไม่มีการกำหนด IP ระบบจะอ้างอิงสิทธิ์การเข้าถึงจาก
- การกำหนด Public IP ที่อนุญาตให้เข้าถึง
commandName
ชื่อคำสั่งหลักสำหรับใช้งานใน Server Console หรือ Client Console เพื่ออ้างอิงคำสั่งของทรัพยากรนี้
commandName = 'app'
- commandName:
string
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> <subCommandName> <args...>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
subCommands
รายการคำสั่งย่อย
subCommands = { ... }
getUser
คำสั่งรับข้อมูลผู้ใช้
getUser = {
name = 'getuser',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> getuser <identifier>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
addUser
คำสั่งเพิ่มข้อมูลผู้ใช้
addUser = {
name = 'adduser',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> adduser <identifier> <bindId|nil>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
deleteUser
คำสั่งลบข้อมูลผู้ใช้
deleteUser = {
name = 'deluser',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> deluser <identifier>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
getBanInfo
คำสั่งรับข้อมูลการถูกแบน
getBanInfo = {
name = 'baninfo',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> baninfo <identifier|banRefId>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
banUser
คำสั่งแบนผู้ใช้ถาวรหรือชั่วคราว
banUser = {
name = 'banuser',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> banuser <identifier> <numDays|0=permanent> <reason>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่ง ได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
unbanUser
คำสั่งยกเลิกแบนผู้ใช้
unbanUser = {
name = 'banuser',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> unbanuser <identifier>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
setUserRole
คำสั่งกำหนดบทบาทของผู้ใช้
setUserRole = {
name = 'setrole',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> setrole <identifier> <roleId>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
reactivateUser
คำสั่งยกเลิกสถานะการถูกระงับเมื่อผู้เล่นถูกระงับจาก inactivePlayers
reactivateUser = {
name = 'reactivate',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> reactivate <identifier>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทา งฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
setNewIdentifier
คำสั่งกำหนดตัวระบุให้ผู้ใช้ใหม่
setNewIdentifier = {
name = 'setnewid',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> setnewid <identifier> <newIdentifier>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
resetBindIdentifier
คำสั่งรีเซ็ตตัวระบุที่ ถูกผูกไว้ของผู้ใช้
resetBindIdentifier = {
name = 'resetbindid',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> resetbindid <identifier>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
resetHwids
คำสั่งรีเซ็ต HWIDs ของผู้ใช้
resetHwids = {
name = 'resethwids',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> resethwids <identifier>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
getPoints
คำสั่งรับข้อมูลคิวพอยท์ของผู้ใช้
getPoints = {
name = 'getpoints',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> getpoints <identifier>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
addPoints
คำสั่งเพิ่มคิวพอยท์ให้ผู้ใช้
addPoints = {
name = 'addpoints',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> addpoints <identifier> <numPoints> <expirationDays|nil>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
setPermanentPoints
คำสั่งกำหนดคิวพ้อยท์แบบไม่มีวันหมดอายุให้ผู้ใช้
setPermanentPoints = {
name = 'setpoints',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> setpoints <identifier> <numPoints>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
deleteTemporaryPoints
คำสั่งลบคิวพ้อยท์แบบมีวันหมดอายุของผู้ใช้
deleteTemporaryPoints = {
name = 'delpoints',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> delpoints <identifier> <numIndex>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
purgePoints
คำสั่งลบคิวพ้อยท์ทั้งหมดของผู้ใช้
purgePoints = {
name = 'purgepoints',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> purgepoints <identifier>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
getAirtime
คำสั่งรับแอร์ไทม์คงเหลือของผู้ใช้
getAirtime = {
name = 'getairtime',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> getairtime <identifier>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
setAirtime
คำสั่งกำหนดแอร์ไทม์ให้ผู้ใช้
setAirtime = {
name = 'setairtime',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> setairtime <identifier> <numSeconds>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
addAirtime
คำสั่งเพิ่มแอร์ไทม์ให้ผู้ใช้
addAirtime = {
name = 'addairtime',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> addairtime <identifier> <numSeconds>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
removeAirtime
คำสั่งลบ/ลดแอร์ไทม์ของผู้ใช้
removeAirtime = {
name = 'removeairtime',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> removeairtime <identifier> <numSeconds>
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช ้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
getMyInfo
คำสั่งรับข้อมูลส่วนตัวของผู้เล่นภายในเกม (ℹ️ คำสั่งนี้สามารถใช้งานได้เพียงฝั่งไคลเอนต์เท่านั้น)
getMyInfo = {
name = 'myinfo',
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.PLAYER,
PLAYER_ROLES.VIP,
PLAYER_ROLES.STAFF,
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> myinfo
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
getQueueInfo
คำสั่งรับข้อมูลเกี่ยวกับระบบคิว
getQueueInfo = {
name = 'queueinfo',
serverOnly = false,
allowedRoles = {
PLAYER_ROLES.PLAYER,
PLAYER_ROLES.VIP,
PLAYER_ROLES.STAFF,
PLAYER_ROLES.MODERATOR,
PLAYER_ROLES.ADMIN,
PLAYER_ROLES.DEVELOPER
}
}
- name:
string
- ชื่อคำสั่งย่อย
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
<commandName> queueinfo
- ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
- ชื่อคำสั่งย่อย
- serverOnly:
boolean
- ใช้งานคำสั่งได้ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
- allowedRoles:
table<{ [index]: integer }>
|table<{}>
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
serverOnly
เป็นtrue
- PLAYER_ROLES คือข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับบทบาทของผู้เล่น โดยอ้างอิงการกำหนดค่าจากไฟล์
./config/setup.lua
- ⚠️ ไม่สามารถใช้งานคำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์ได้ หากกำหนด
- บทบาทที่อนุญาตให้ใช้คำสั่งทางฝั่งไคลเอนต์