External API
การกำหนดค่าเกี่ยวกับการตรวจสอบสิทธิ์ของผู้เล่นจาก API ภายนอก
activeAPI
ประเภทตัวเลือกการตรวจสอบสิทธิ์จาก API ภายนอกที่ต้องการใช้งาน
activeAPI = ACTIVE_API.DISCORD
- activeAPI:
integer
- ACTIVE_API: ข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับประเภทตัวเลือกการตรวจสอบสิทธิ์จาก API ภายนอก (ถูกกำหนดมาจากภายในสคริปต์)
- DISCORD: อ้างอิงสิทธิ์การเชื่อมต่อจากบทบาท (ยศ) ที่กำหนด
- ⚠️ หากใช้งานจะต้องกำหนดค่า
identifierType
เป็นdiscord
ที่ไฟล์./config/core.lua
- ⚠️ หากใช้งานจะต้องกำหนดค่า
- CUSTOM: อ้างอิงสิทธิ์การเชื่อมต่อจาก API ที่กำหนดเอง
- DISCORD: อ้างอิงสิทธิ์การเชื่อมต่อจากบทบาท (ยศ) ที่กำหนด
- ACTIVE_API: ข้อมูลการกำหนดค่าเกี่ยวกับประเภทตัวเลือกการตรวจสอบสิทธิ์จาก API ภายนอก (ถูกกำหนดมาจากภายในสคริปต์)
discord
การกำหนดค่า Discord API
baseUrl
กำหนด Base URL สำหรับการเชื่อมต่อกับ Discord API
baseUrl = 'https://discord.com/api'
- baseUrl:
string
version
กำหนดเวอร์ชัน Discord API ที่ต้องการใช้งาน
version = 10
- version:
integer
botToken
Bot Token ใช้สำหรับยืนยันตัวตนของบอท เพื่อให้สามารถเข้าถึง Discord API ได้
botToken = GetConvar('discord_botToken', '')
- botToken:
string
บทช่วยสอนและคำแนะนำ
การกำหนดค่าเริ่มต้นจะรับ Bot Token มาจาก discord_botToken
ที่กำหนดไว้ภายในไฟล์ server.cfg
set discord_botToken "your_bot_token"
guildId
Guild ID ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลสมาชิก
guildId = GetConvar('discord_guildId', '')
- guildId:
string
บทช่วยสอนและคำแนะนำ
การกำหนดค่าเริ่มต้นจะรับ Guild ID มาจาก discord_guildId
ที่กำหนดไว้ภายในไฟล์ server.cfg
set discord_guildId "your_guild_id"
allowedRoleIds
รายการ Role ID ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์ (รหัสของบทบาท/ยศ)
allowedRoleIds = {
'XXXXXXXXXXXXXXXXXX',
'XXXXXXXXXXXXXXXXXX'
}
string
: รหัสของบทบาท/ยศที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์
บทช่วยสอนและคำแนะนำ
guildBanCheck
เปิดใช้งานตรว จสอบสถานะการถูกแบนจาก Guild บน Discord เมื่อผู้เล่นเชื่อมต่อ
guildBanCheck = true
- guildBanCheck:
boolean
Bot จะต้องมีสิทธิ์ BAN_MEMBERS
เพื่อเข้าถึงข้อมูลการแบนสมาชิกภายใน Guild บน Discord
requestLimits
กำหนดค่าการจำกัดจำนวนคำขอสำหรับ Discord API
requestLimits = {
enable = true,
rate = 5,
per = 1
}
- enable:
boolean
- เปิดใช้งานการจำกัดจำนวนคำขอ
- rate:
integer
- จำนวนคำขอสูงสุดที่อนุญาตภายในระยะเวลาที่กำหนด
- per:
integer
- ระยะเวลาที่ต้องรอก่อนที่จะรีเซ็ตจำนวนคำขอใหม่ (หน่วยเป็น วินาที)
จำเป็นที่จะต้องเปิดใช้งานเพื่อป้องกันรหัสสถานะ HTTP 429 Too Many Requests
useDbAuthOnFail
ใช้การตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูลแทน หากเกิดข้อผิดพลาดในการตร วจสอบสิทธิ์จาก Discord API
useDbAuthOnFail = {
enable = true,
disallowStatusCodes = {
[400] = true,
[401] = true,
[403] = true,
[405] = true
}
}
- enable:
boolean
- เปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูลแทนเมื่อเกิดข้อผิดพลาด
- disallowStatusCodes:
table<{ [integer]: boolean }>
- รายการรหัสสถานะ HTTP ที่ยกเว้นการตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูล หากเกิดข้อผิดพลาดในการตรวจสอบสิทธิ์จาก Discord API
- 400 (BAD REQUEST): คำขอมีรูปแบบไม่ถูกต้อง หรือเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถเข้าใจคำขอได้
- 401 (UNAUTHORIZED): ไม่มีส่วนหัว Authorization หรือส่วนหัวที่ให้มาไม่ถูกต้อง
- 403 (FORBIDDEN): โทเค็น Authorization ที่ส่งมาไม่มีสิทธิ์เข้าถึงทรัพยากรที่ร้องขอ
- 405 (METHOD NOT ALLOWED): วิธีการร้องขอ (HTTP Method) ที่ใช้ไม่ถูกต้องสำหรับตำแหน่งที่ระบุ
- รายการรหัสสถานะ HTTP ที่ยกเว้นการตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูล หากเกิดข้อผิดพลาดในการตรวจสอบสิทธิ์จาก Discord API
อ้างอิงสิทธิ์การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์จากตัวระบุในฐานข้อมูลที่ตาราง azael_playpass
คอลัมน์ identifier
หากเกิดข้อผิดพลาดในการตรวจสอบสิทธิ์จาก Discord API
custom
การกำหนดค่า Custom API
วิธีการร้องขอ HTTP เริ่มต้นคือ GET
คุณสามารถแก้ไขรหัสได้ที่ ./modules/external-api/server.lua
baseUrl
กำหนด Base URL สำหรับการเชื่อมต่อกับ Custom API โดยใช้ Identifier อ้างอิงสิทธิ์การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์
baseUrl = 'https://example.com/api/players'
- baseUrl:
string
ตัวระบุอ้างอิงจากการกำหนดค่า identifierType
ที่ไฟล์ ./config/core.lua
authorization
การกำหนดค่าการตรวจสอบสิทธิ์สำหรับการเข้าถึง Custom API
authorization = 'Bearer <your_bearer_token>'
- authorization:
string
requestLimits
กำหนดค่าการจำกัดจำนวนคำขอสำหรับ Custom API
requestLimits = {
enable = true,
rate = 5,
per = 1
}
- enable:
boolean
- เปิดใช้งานการจำกัดจำนวนคำขอ
- rate:
integer
- จำนวนคำขอสูงสุดที่อนุญาตภายในระยะเวลาที่กำหนด
- per:
integer
- ระยะเวลาที่ต้องรอก่อนที่จะรีเซ็ตจำนวนคำขอใหม่ (หน่วยเป็น วินาที)
useDbAuthOnFail
ใช้การตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูลแทน หากเกิดข้อผิดพลาดในการตรวจสอบสิทธิ์จาก Custom API
useDbAuthOnFail = {
enable = true,
disallowStatusCodes = {
[400] = true,
[401] = true,
[403] = true,
[405] = true
}
}
- enable:
boolean
- เปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูลแทนเมื่อเกิดข้อผิดพลาด
- disallowStatusCodes:
table<{ [integer]: boolean }>
- รายการรหัสสถานะ HTTP ที่ยกเว้นการตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูล หากเกิดข้อผิดพลาดในการตรวจสอบสิทธิ์จาก Custom API
- 400 (BAD REQUEST): คำขอมีรูปแบบไม่ถูกต้อง หรือเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถเข้าใจคำขอได้
- 401 (UNAUTHORIZED): ไม่มีส่วนหัว Authorization หรือส่วนหัวที่ให้มาไม่ถูกต้อง
- 403 (FORBIDDEN): โทเค็น Authorization ที่ส่งมาไม่มีสิทธิ์เข้าถึงทรัพยากรที่ร้องขอ
- 405 (METHOD NOT ALLOWED): วิธีการร้องขอ (HTTP Method) ที่ใช้ไม่ถูกต้องสำหรับตำแหน่งที่ระบุ
- รายการรหัสสถานะ HTTP ที่ยกเว้นการตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูล หากเกิดข้อผิดพลาดในการตรวจสอบสิทธิ์จาก Custom API
อ้างอิงสิทธิ์การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์จากตัวระบุในฐานข้อมูลที่ตาราง azael_playpass
คอลัมน์ identifier
หากเกิดข้อผิดพลาดในการตรวจสอบสิทธิ์จาก Custom API